
ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์
01 มีนาคม 2543
) งบการเงินประจำปี2542
(หน่วย : บาท)
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัท
2542 2541 2542 2541
เงินกู้ยืมระยะยาว 995,018,783 3,021,437,240 240,000,000 1,491,150,000
หัก ส่วนเกินของมูลค่าปัจจุบันของเงินตรา
ต่างประเทศที่ซื้อไว้สำหรับการชำระเงินกู้
ข้างต้น ซึ่งสูงกว่าตามอัตราแลกเปลี่ยน
ที่ทำสัญญาไว้ - (392,787,500) - (392,787,500)
995,018,783 2,628,649,740 240,000,000 1,098,362,500
หัก เงินกู้ยืมระยะยาวที่ครบกำหนด
ชำระภายใน 1 ปี (732,900,725) (2,086,253,982) - (898,362,500)
เงินกู้ยืมระยะยาว - สุทธิ 262,118,058 542,395,758 240,000,000 200,000,000
ณ วันที่ 31 ธันวาคม เงินกู้ยืมระยะยาวของ
- บริษัทใหญ่
- ปี 2542 เงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 240 ล้านบาท เป็นเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งซึ่งถึงกำหนดชำระ
คืนเงินต้นทุกงวด 3 เดือนงวดละ 37.5 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่เดือน มีนาคม 2544 สิ้นสุดในปี 2545 อัตราดอกเบี้ย
MLR+1% โดยจำนำหุ้นสามัญ เงินลงทุนในบริษัททางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 22 ล้านหุ้นเป็นหลัก
ประกันซึ่งจะต้องดำรงมูลค่าของหุ้นหลักประกันไม่ให้มีมูลค่าลดลงต่ำกว่าร้อยละ 139 ของยอดหนี้ค้างชำระ ณ
วันที่ 31 ธันวาคม 2542 เงินลงทุนดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 407 ล้านบาท และกรรมการบริษัทค้ำประกันใน
ฐานะลูกหนี้ร่วม
- ปี 2541 เงินกู้ยืมระยะยาวเป็นเงินกู้ยืมต่างประเทศจำนวน 35 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ SIBOR
+ 1% ต่อปี บริษัททำสัญญาประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในจำนวนเงินกู้ยืมทั้งหมดแล้ว โดยชำระคืน
เงินต้นทุกงวด 6 เดือนเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2540 โดย 4 งวดแรก ชำระงวดละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนที่
เหลือสามารถชำระใน 1 ปี หลังจากนั้น และเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 200 ล้านบาท เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน ถึง
กำหนดชำระเงินในปี 2543 โดยมีอัตราดอกเบี้ย MLR + 1.5% ต่อปี
- กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 59.99% เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศโดยโอน
สิทธิเรียกร้องในการรับเงินตามสัญญาก่อสร้างโครงการจากบริษัทผู้ว่าจ้างให้กับธนาคารเพื่อเป็นหลักประกัน
เงินกู้ยืมและเงินกู้บางส่วนค้ำประกันโดยผู้ร่วมค้าประกอบด้วย
ปี 2542
จำนวนเงิน 256.70 ล้านบาท(ปี 2541: 1200 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ย MLR โดยชำระคืนเงินต้นทุกเดือนเป็น
จำนวนอย่างน้อยกว่า 50 % จากค่างานที่ได้รับในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่เดือน ตุลาคม
2541 หรือเมื่อกิจการร่วมค้าได้รับเงินค่างานจากบริษัทผู้ว่าจ้างรวมแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 55 ของราคาตาม
สัญญา แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน ในเดือนธันวาคม 2541 กิจการร่วมค้าฯ ได้ทำการเปลี่ยนเงื่อนไขการ
ชำระคืนเงินต้นจากเดิมเป็นการชำระคืนเงินต้นทุกเดือนเป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของค่างานที่ได้รับ
ในแต่ละเดือน เริ่มตั้งแต่เดือน มกราคม 2542 หรือเมื่อกิจการร่วมค้าได้รับเงินค่างาน จากบริษัทผู้ว่าจ้างรวมแล้ว
ไม่น้อยกว่า 3,300 ล้านบาทแล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน และกิจการร่วมค้าจะต้องชำระคืนเงินต้นอย่างน้อย
เป็นจำนวนเงิน 1,000 ล้านบาทภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2543 และชำระคืนเงินต้นส่วนที่เหลือจำนวนเงิน 200
ล้านบาท ภายในเดือน มิถุนายน 2545 ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการชำระคืนเงินต้นขึ้นอยู่กับความ
สามารถในการชำระเงินค่างานของบริษัทผู้ว่าจ้างในอนาคต ต่อมาในปี 2542 กิจการร่วมค้า ได้ขอเปลี่ยนแปลง
เงื่อนไขการชำระเงินซึ่งทางธนาคารได้อนุมัติให้เริ่มชำระหนี้ในเดือนตุลาคม 2542 และสิ้นสุดภายใน 30
เมษายน 2543
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2542 กิจการร่วมค้าฯ กำลังอยู่ในระหว่างการโอนสิทธิเรียกร้องเพิ่มเติมในการรับเงินตาม
สัญญาก่อสร้างเพิ่มเติมของโครงการการก่อสร้างทางดว่นขั้นที่ 2 เส้นทางอโศก ถึง ศรีนครินทร์ให้กับธนาคาร
ปี 2541
- จำนวนเงินประมาณ 279.6 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MLR และ MLR+ 0.5 โดยชำระคืนเงินต้นทุกเดือน
เดือนละประมาณ 100 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2541 แต่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2541 กิจการร่วมค้าฯได้
ทำการชำระคืนเงินต้นประจำเดือนเป็นจำนวนเงินประมาณ 55% ของค่างานที่ได้รับจริงจากบริษัทผู้ว่าจ้างในแต่
ละเดือนซึ่งน้อยกว่า 100 ล้านบาทและจะต้องชำระคืนให้เสร็จสิ้นภายในเดือน มิถุนายน 2542
- จำนวนเงิน 150 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR + 3.75 โดยชำระคืนเงินต้นทุกเดือนเดือนละ 30 ล้านบาท
เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2541
และจำนวนเงิน 1,200 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR โดยชำระคืนเงินต้นทุกเดือนเป็นจำนวนอย่างน้อยกว่า 50
% จากค่างานที่ได้รับในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านสิ้นสุดภายใน 30 เมษายน 2543
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 35
- มีเงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารพาณิชย์ของไทยแห่งหนึ่งจำนวน 688 ล้านบาท ในปี 2542 และ 2541 การจ่าย
ชำระแบ่งออกเป็น 4 งวด ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ตามสัญญา โดยจะจ่ายชำระหนี้ทั้งหมดในเดือน พฤศจิกายน
2542 ซึ่งกิจการร่วมค้าไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดกำลังอยู่ในระหว่างการขอเลื่อนการชำระหนี้
- และจากธนาคารพาณิชย์ของไทยอีกแห่งหนึ่งจำนวนประมาณ 533.97 ล้านบาท ในปี 2542 และ 2541 ซึ่งในปี
2542 ธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวได้รับโอนสิทธิและผลประโยชน์ตามสัญญาสินเชื่อ รวมทั้งสิทธิภายใต้สัญญา
หลักประกันทั้งหมดในปัจจุบันหรือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งหนึ่งทั้งนี้เงื่อนไขการ
จ่ายชำระยังคงเหมือนเดิม โดยมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดระยะการชำระเงินต้นเป็นจ่ายชำระในเดือนมกราคม
และกุมภาพันธ์ 2543 เดือนละประมาณ 226.98 ล้านบาท ณ วันที่ในรายงานของผู้สอบบัญชียังไม่พบการชำระ
เงินกู้ยืมดังกล่าว ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อกิจการโดยผู้ให้กู้มีสิทธิเรียกให้ชำระเงินกู้ยืมบางส่วนหรือทั้งหมดโดยไม่
ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าและสัญญาจะถูกยกเลิกทันที เงินกู้ยืมระยะยาวของกิจการร่วมค้าฯดังกล่าวค้ำประกัน
โดยผู้ร่วมค้า
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 25
- เงินกู้ระยะยาวจากธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ จำนวนเงิน 500 ล้านบาทในปี 2542 และ 2541 อัตราดอก
เบี้ยร้อยละ MLR และ MLR + 1.25 ตามลำดับ โดยในปี 2542 ได้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืนเงินกู้
เป็นเมื่อกิจการร่วมค้าได้รับชำระค่างานจากบริษัทผู้ว่าจ้างเป็นจำนวนมากกว่า 68% ของมูลค่าโครงการ โดย
ชำระคืนเงินต้นทุกเดือนเป็นจำนวน 20% จากค่างานที่ได้รับในแต่ละเดือนเฉพาะที่เป็นสกุลเงินบาทจะต้องชำระ
คืนทั้งหมดภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2544 โดยโอนสิทธิเรียกร้องในการรับเงินค่างานเฉพาะที่เป็นสกุลเงินบาท
ตามสัญญาก่อสร้างโครงการจากบริษัทผู้ว่าจ้างให้กับธนาคารเพื่อเป็นหลักประกันเงินกู้ยืมและค้ำประกันโดยผู้
ร่วมค้า
ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีรวมภาระจากการขายลูกหนี้ตั๋วเงินที่ถึงกำหนดชำระ
ภายในหนึ่งปีของกิจการร่วมค้าแห่งหนึ่งที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 35 จำนวนเงินประมาณ 2,897.16 ล้าน
บาท และ 1,816.44 ล้านบาท ในปี 2542 และ 2541 ตามลำดับแสดงไว้ภายใต้หนี้สินหมุนเวียน
หมายเหตุ 23 - รายได้จากการก่อสร้าง
รายได้จากการก่อสร้างประกอบด้วย
(หน่วย : บาท)
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัท
2542 2541 2542 2541
รายได้ตามวิธีอัตราส่วนงานที่ทำเสร็จ 7,053,526,232 11,814,795,342 2,301,289,582 3,275,811,717
รายได้ตามวิธีงานที่ทำเสร็จและเรียกเก็บ 564,980,918 1,191,770,976 17,078,892 -
กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 297,330,575 216,935,286 - -
7,915,837,725 13,223,501,604 2,318,368,474 3,275,811,717
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 25
มูลค่าโครงการประกอบด้วยส่วนที่เป็นเงินสกุลบาทและเงินเยน ซึ่งถ้าหากมูลค่างานที่จะได้รับแปลงค่าโดยใช้อัตราแลก
เปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่กำหนด ณ วันทำสัญญาก่อสร้างโครงการ จะส่งผลให้มูลค่าของโครงการต่ำกว่าต้นทุนของ
ประมาณการที่ปรับปรุงใหม่ หากแปลงค่าโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2542 และ
2541 มูลค่าของโครงการยังคงสูงกว่าต้นทุนประมาณการอยู่
รายการกำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยนในรายได้จากการก่อสร้าง
ปี 2542
ในงบการเงินรวมได้รวมรายได้จากการก่อสร้างของกิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 25 รวมกำไรจากอัตรา
แลกเปลี่ยนอันเนื่องมาจากค่าของงานที่เป็นเงินตราต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันทำสัญญา เป็น
จำนวนเงินประมาณ 297.33 ล้านบาท โดยเป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจำนวนเงินประมาณ 64 ล้าน
บาท
ปี 2541
ในงบการเงินรวมได้รวมรายได้จากการก่อสร้างของกิจการร่วมค้า 2 แห่ง ที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 50 และ 25
รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอันเนื่องมาจากค่าของงานที่เป็นเงินตราต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ
วันที่ทำสัญญา เป็นจำนวนเงินประมาณ 216.94 ล้านบาท
รายการปรับปรุงรายได้จากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าสัญญาการก่อสร้างและต้นทุนโครงการ
ปี 2542
บริษัทใหญ่
- มีการปรับปรุงมูลค่าสัญญาการก่อสร้างและต้นทุนประมาณการโครงการใหม่ มีผลทำให้บริษัทต้องปรับปรุงลดราย
ได้สุทธิจากการก่อสร้างเป็นจำนวนเงินประมาณ 93.81 ล้านบาท
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 59.99
- มีการปรับปรุงมูลค่าสัญญาการก่อสร้างและต้นทุนประมาณการโครงการใหม่ มีผลทำให้ต้องปรับปรุงเพิ่มรายได้สุทธิ
จากการก่อสร้างเป็นจำนวนเงินประมาณ 32.09 ล้านบาท
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 50
- มีการปรับปรุงมูลค่าสัญญาการก่อสร้างและต้นทุนประมาณการโครงการใหม่ มีผลทำให้กิจการต้องปรับปรุงเพิ่ม
รายได้สุทธิจากการก่อสร้างเป็นจำนวนเงินประมาณ 47.5 ล้านบาท
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 35
- มีการปรับปรุงมูลค่าสัญญาก่อสร้างและต้นทุนประมาณการของโครงการใหม่มีผลทำให้ปรับปรุงผลกระทบโดยลด
รายได้จากการก่อสร้างในปีนี้ทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงินประมาณ 346.73 ล้านบาท
ปี 2541
บริษัทใหญ่
- มีการปรับปรุงลดรายได้จากการก่อสร้างทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงินประมาณ 283.5 ล้านบาท จากการเปลี่ยนแปลงต้นทุน
ประมาณการของโครงการซึ่งสืบเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าแรง และค่าผู้รับเหมาช่วงมีการปรับ
ราคาสูงขึ้นประกอบกับแผนการก่อสร้างมีการหยุดเป็นบางช่วงจากผู้ว่าจ้าง เนื่องจากขุดพบโบราณสถานในบริเวณก่อสร้าง
- มีการบันทึกต้นทุนการก่อสร้างของโครงการอีกแห่งหนึ่งเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงินประมาณ 332.9 ล้านบาท โดยโครงการ
ดังกล่าว บริษัทได้ประมาณตัวเลขรับรู้ผลขาดทุนทั้งจำนวนไปแล้วในปี 2540 เนื่องจากประมาณการต้นทุนก่อสร้างทั้ง
สิ้นแล้วปรากฎว่ามีผลขาดทุนเกิดขึ้น
บริษัทย่อย - บริษัท ช. การช่าง เรียลเอสเตท จำกัด
- ห้างหุ้นส่วนซึ่งเป็นเงินลงทุนของบริษัทย่อยได้มีการเพิ่มเติมมูลค่าสัญญา และปรับปรุงเพิ่มเติมต้นทุนโครงการใหม่ มี
ผลทำให้ปรับปรุงผลกระทบสุทธิโดยการลดรายได้จากการก่อสร้างเป็นจำนวนเงินประมาณ 9.73 ล้านบาท
กิจการร่วมค้าต่างๆ
- มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าสัญญาและปรับปรุงต้นทุนโครงการใหม่มีผลทำให้มีการปรับปรุงรายได้จากการก่อสร้างสุทธิ
แล้วเป็นจำนวนเงินประมาณ 1,095.51 ล้านบาท
หมายเหตุ 24- รายการผลกำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยน
บริษัทมีรายการผลกำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ดังนี้
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัท
(หน่วย:บาท) 2542 2541 2542 2541
กำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยน
- เกิดขึ้นจริง 7,982,440 68,125,468 6,677,217 (12,951,081)
- ยังไม่เกิดขึ้น (65,055,126) 218,346,777 - -
รวม (57,072,686) 286,472,245 6,677,217 (12,951,081)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม บริษัท บริษัทย่อยและกิจการร่วมค้ามียอดหนี้สินที่มีมูลค่าเป็นเงินตราต่างประเทศภายหลังสุทธิ
จากสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเป็นเงินตราต่างประเทศแล้ว และคำนวณเทียบเท่าค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐอเมริกามีจำนวนดังต่อไป
นี้
ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา
2542 2541
บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) 5,093,414 43,459,067
บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยและกิจการร่วมค้า 59,139,688 103,086,850
ณ วันที่ 31 ธันวาคม บริษัท บริษัทย่อยและกิจการร่วมค้าได้ทำสัญญาประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนคำนวณ
เทียบเท่าค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐอเมริกามีจำนวนดังต่อไปนี้
ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา
2542 2541
บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) 5,000,000 42,779,122
บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยและกิจการร่วมค้า 16,067,486 47,696,485
หมายเหตุ 25 - เงินปันผล สำรองตามกฏหมาย และเงินส่วนแบ่งกำไร
ในปี 2542
บริษัทใหญ่
ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2542 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2542 ที่ประชุมมีมติให้จัดสรรทุนสำรองตาม
กฎหมายเพิ่มร้อยละ 5 ของกำไรสุทธิ
ในการประชุมคณะกรรมการบริหารครั้งที่ 8/2542 เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2542
-ที่ประชุมมีมติให้บริษัทออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ประเภทมีหลักประกัน และ/หรือ ไม่มีหลักประกันเป็นเงิน
บาท และ/หรือ เงินตราต่างประเทศเทียบเท่าในวงเงินรวมไม่เกิน 2,000 ล้านบาทเพื่อเสนอขายในประเทศ และ/หรือ
ต่างประเทศให้แก่ผู้ลงทุนประเภทสถาบัน โดยจะเสนอขายทั้งจำนวนหรือแต่บางส่วนก็ได้ และจะเสนอจ่ายทั้งหมดใน
คราวเดียวหรือหลายคราวก็ได้ หุ้นกู้มีอายุไม่เกิน 10 ปี โดยให้คณะกรรมการบริหารเป็นผู้กำหนดรายละเอียดและเงื่อน
ไขต่างๆทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ต่อไป
-ที่ประชุมมีมติให้บริษัทเข้าร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัทจำกัด โดยมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1,200 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์
ในการเข้าไปลงทุนในโครงการระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ต่างๆ โดย ที่บริษัทจะร่วมลงทุนในบริษัทจำกัดนั้นไม่เกิน
ร้อยละ 60 ของทุนจดทะเบียนของ บริษัทจำกัดดังกล่าว
ในการประชุมคณะกรรมการบริหารครั้งที่ 10/2542 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2542
ที่ประชุมมีมติให้บริษัทลงนามในสัญญาร่วมกับเอสเอ็นซี-ลาวาลิน อิงค์ ในนามของกิจการร่วมค้า ซีเคเอสแอล เพื่องาน
ออกแบบ ผลิต จัดส่ง และติดตั้งงานวางรางรถไฟฟ้า กับองค์การรถไฟฟ้ามหานคร
บริษัทย่อย - บริษัท ช. การช่าง-โตกิว คอนสตรัคชั่น จำกัด
ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2542 ที่ประชุมมีมติให้จ่ายเงินปันผลในอัตรา 30 บาท ต่อหุ้น เป็น
จำนวน 30 ล้านบาท
ในปี 2541
บริษัทย่อย -- บริษัท ช. การช่าง-โตกิว คอนสตรัคชั่น จำกัด
ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2541 ที่ประชุมมีมติให้จ่ายเงินปันผลในอัตรา 20 บาทต่อหุ้น เป็น
จำนวน 20 ล้านบาท
กิจการร่วมค้าได้มีการจ่ายส่วนแบ่งกำไรดังต่อไปนี้
(หน่วย : ล้านบาท)
2542 2541
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 60 - 87
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 40 - 123
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 53.2 205 390
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 50 188 144
หมายเหตุ 26 - ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น
ณ วันที่ 31 ธันวาคม ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้นของ
บริษัทใหญ่จากการค้ำ ประกันเงินกู้ยืม การเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต การออกหนังสือค้ำประกันจากธนาคาร และตั๋ว
สัญญาขายลด ให้แก่กิจการร่วมค้าที่บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ร่วมค้าเป็นจำนวนประมาณ 2,786.7 ล้านบาท และ 6,028.45
ล้านบาท ในปี 2542 และ 2541 ตามลำดับ
กิจการร่วมค้าฯ จากการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตกับธนาคารที่ยังไม่ได้ใช้ เป็นจำนวนประมาณ 768.31 ล้านบาทและ
1,036.26 ล้านบาทในปี 2542 และ 2541 ตามลำดับ
ภาระผูกพันที่เกิดจากการออกหนังสือค้ำประกันโดยธนาคารโดยมีกิจการร่วมค้าแห่งหนึ่งได้โอนสิทธิการรับเงินจากผู้ว่า
จ้างเป็นประกันในส่วนของตน
(หน่วย : บาท) งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัท
2542 2541 2542 2541
การประกันการก่อสร้าง ประกันการประมูลงานก่อสร้าง
การยื่นซองประกวดราคาและการชำระหนี้ 6,210,518,851 6,923,802,201 1,582,316,235 1,659,865,029
ชำระคืนเงินรับล่วงหน้าและเงินประกันผลงาน 5,302,638,252 5,141,260,644 389,702,043 172,427,440
ประกันการสูญเสียรายได้เนื่องจากความเสียหาย
จาก การขนส่ง ประกันผลงาน ก่อสร้าง
การเช่าอุปกรณ์ การใช้ไฟฟ้า
และการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต 1,111,897,454 1,421,169,575 997,078,839 1,065,552,468
เงินตราต่างประเทศ
ปี 2542
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 35
- ได้ทำสัญญาประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวนประมาณ 11.07 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิด
ผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ในอนาคต สัญญาดังกล่าวจะครบกำหนดในปี 2543
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 25
- มีการทำสัญญาขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ากับธนาคารพาณิชย์ 3 แห่งเป็นจำนวน 26 สัญญา รวมเป็นเงิน 2,600
ล้านเยน ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ในอนาคต โดยนำเงินฝากประจำมูลค่า 32.5
ล้านบาทเป็นหลักประกันและประกันโดยผู้ร่วมค้า สัญญาดังกล่าวจะครบกำหนดในปี 2543 นอกจากนี้กิจการร่วมค้าได้
ทำสัญญาขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าอีกจำนวน 2 สัญญารวมเป็นเงิน 200 ล้านเยน โดยการทำสัญญานี้จะมีผล
หรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในอนาคตของธนาคารพาณิชย์คู่สัญญา
ปี 2541
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 35
- มีภาระผูกพันกับธนาคารจากการทำสัญญาขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าเป็นจำนวนเงิน 29.49 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ในอนาคต สัญญาดังกล่าวจะครบกำหนดในเดือน
ตุลาคม และพฤศจิกายน 2542
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 25
- จากการทำสัญญาขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ากับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งเป็นจำนวน 4 สัญญา รวมเป็นเงิน
1,000 ล้านเยน ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ในอนาคต โดยนำเงินฝากประจำมูลค่า
ในงบการเงินรวมเป็นจำนวน 25 ล้านบาทเป็นหลักประกัน สัญญาดังกล่าวจะครบกำหนดในปี 2542
สัญญาต่างๆ
ปี 2542
บริษัทย่อย - บริษัท คอนสตรัคชั่น แมททีเรียล ซัพพลาย จำกัด
มีการทำสัญญาเช่าสถานที่ทำการ โดยชำระค่าเช่าเป็นรายเดือนๆละ 2,053,000 บาทจนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2543
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 35
มีการทำสัญญาเช่าที่ดิน 2 ฉบับ ระยะเวลาเช่า 3 ปีและ 4 ปี โดยมีกำหนดชำระเงินค่าเช่า 13,500 บาทต่อเดือนต่อไร่
และ 618,000 บาทต่อปี ตามลำดับ
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 25
- มีสัญญาเช่ายานพาหนะเป็นจำนวนเงินประมาณ 20.56 ล้านบาท
- การทำสัญญาเช่าที่ดิน เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารโรงงานเพื่อใช้ในการผลิตวัสดุก่อสร้างและเพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้ง
สำนักงานชั่วคราวเป็นจำนวนเงินประมาณ 13.19 ล้านบาท
ปี 2541
บริษัทย่อย -- บริษัท ช. การช่าง-โตกิว คอนสตรัคชั่น จำกัด
-จากสัญญาขายวัสดุก่อสร้างที่เหลืออยู่ เป็นจำนวนเงินประมาณ 19.55 ล้านบาท
-จากการทำสัญญาเช่าต่างๆ
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 35
จากการทำสัญญาเช่าที่ดิน 2 ฉบับ ระยะเวลาเช่า 3 ปี และ 4 ปี โดยมีกำหนดชำระเงินค่าเช่า 13,500 บาท ต่อเดือน ต่อ
ไร่ และ 618,000 บาท ต่อปี ตามลำดับ
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 25
-จากสัญญาซื้อวัสดุก่อสร้างที่เหลืออยู่กับบริษัทย่อยแห่งหนึ่งเป็นจำนวนเงินประมาณ 20 ล้านบาท
-จากการทำสัญญาเช่ายานพาหนะเป็นจำนวนเงินประมาณ 32.4 ล้านบาท
เรื่องอื่นๆ
ปี 2542
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 59.99
จากการถูกฟ้องร้องให้จ่ายค่าเสียหายและเงินชดเชยจากการเลิกจ้างพนักงาน จำนวนเงินประมาณ 4.6 ล้านบาท โดย
คดีอยู่ระหว่างการสืบพยานและการพิจารณาของศาล
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 35
- จากการถูกฟ้องร้องจากพนักงานของกิจการร่วมค้าฯให้จ่ายเงินชดเชยจากการปฏิบัติงานจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้องเป็น
จำนวนประมาณ 1.5 ล้านบาท โดยคดีอยู่ระหว่างดำเนินการไกล่เกลี่ยพิจารณาและสืบพยานโจทก์
- จากการถูกฟ้องร้องค่าเสียหายจากฐานความผิดเรื่องละเมิดจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้อง เป็นจำนวนเงิน 315,500 บาทโดย
คดีอยู่ระหว่างดำเนินการสืบพยานโจทก์
- ได้ค้างชำระเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งที่ถึงกำหนดชำระ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อกิจการร่วมค้าฯดังกล่าว โดยผู้
ให้กู้มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้กู้ชำระเงินต้นที่ยังคงค้างชำระอยู่ตามสัญญาจนครบทันที ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2542 ยอดเงิน
ต้นค้างชำระทั้งสิ้นมีจำนวนเงิน 688 บาท
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 25
ได้ถูกอดีตลูกจ้างจำนวน 1 คนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในคดีแรงงานเป็นจำนวนเงินประมาณ 197.47 ล้านบาท ทั้งที่กิจ
การร่วมค้าฯได้จ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีซึ่งที่ปรึกษาทางกฎหมายได้ให้ความ
เห็นว่าไม่เคยมีคดีใดที่ศาลจะตัดสินให้ผู้ว่าจ้างต้องจ่ายค่าเสียหายในจำนวนเงินมูลค่ามากเท่านี้และคาดว่ากิจการร่วม
ค้าฯจะเป็นผู้ชนะคดีในที่สุด
หมายเหตุ 27 - ค่าชดเชยจากผู้ว่าจ้าง
กิจการร่วมค้าที่บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 35
มีต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการส่งมอบพื้นที่ของการก่อสร้างจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(ผู้ว่าจ้าง)ให้
กิจการร่วมค้าดังกล่าวล่าช้ากว่ากำหนด กิจการร่วมค้าฯได้จัดทำหนังสือขอเรียกค่าชดเชยจากผู้ว่าจ้างเพื่อเรียกร้องเงิน
ชดเชยตามความเป็นจริงและตามประเภทค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งทางวิศวกรที่ปรึกษาของผู้ว่าจ้างกำลังพิจารณาค่าใช้จ่าย
ดังกล่าวตามความเหมาะสมแล้วเพื่อจัดส่งให้ผู้ว่าจ้างพิจารณาต่อไป เป็นผลให้กิจการร่วมค้าฯอาจจะมีรายรับจากการ
เรียกร้องเงินชดเชยดังกล่าวตามจำนวนที่กิจการร่วมค้าฯพึงได้รับในอนาคต
และจากการเรียกร้องค่าชดเชยทำงานตามคำสั่งที่นอกเหนือสัญญากับผู้ว่าจ้างโดยทนายความของกิจการได้แจ้งว่าได้
ค่าชดเชยดังกล่าวจากผู้ว่าจ้าง ซึ่งในปัจจุบันกิจการยังไม่ได้รับหนังสือยืนยันที่จะได้ค่าชดเชยจากผู้ว่าจ้าง
หมายเหตุ 28 - การเปิดเผยข้อมูล
ณ วันที่ 31 ธันวาคม รายการของกิจการร่วมค้าที่รวมอยู่ในงบการเงินรวมมีดังนี้
(หน่วย :พันบาท)
2542 2541
สินทรัพย์หมุนเวียน 5,550,236 7,666,275
สินทรัพย์ถาวร 759,704 1,298,729
สินทรัพย์อื่น 111,701 156,953
หนี้สินหมุนเวียน 8,079,457 8,570,057
หนี้สินระยะยาว 199,035 1,425,146
รายได้ 6,400,059 9,501,679
ค่าใช้จ่าย 6,908,220 9,581,090
หมายเหตุ 29 - เหตุการณ์ภายหลังวันที่ในงบการเงิน
เหตุการณ์ภายหลังวันที่ในงบการเงินของงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2542 มีดังนี้
บริษัทใหญ่
ในเดือน มกราคม 2543 ได้ดำเนินการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 3,408,750 หุ้น
จากบริษัทที่เกี่ยวข้อง - บริษัท ช. การช่างโฮลดิ้ง จำกัด ในราคาหุ้นละ 18.50 บาท(ราคาปิด ณ วันที่ 31 ธันวาคม
2542) รวมเป็นเงินจำนวนประมาณ 63.06 ล้านบาท ตามรายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารครั้งที่ 1/2543 เมื่อ
วันที่ 24 มกราคม 2543
หมายเหตุ 30 - จัดรายการในงบการเงิน
รายการในงบการเงินปี 2541 ส่วนหนึ่งได้จัดประเภทรายการใหม่ให้สอดคล้องกับงบการเงินปี 2542 ซึ่งบางรายการเป็น
การจัดประเภทรายการตามมาตรฐานการบัญชีใหม่ที่ให้ถือปฏิบัติกับงบการเงินสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีในปี 2542
หมายเหตุ 31 - การเปิดเผยข้อมูลจำแนกตามส่วนงาน
บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย และกิจการร่วมค้าประกอบธุรกิจประเภทก่อสร้าง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพียงอย่าง
เดียว จึงไม่มีข้อมูลจำแนกตามประเภทธุรกิจหรือพื้นที่ภูมิศาสตร์
หมายเหตุ 32 - ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
ค่าใช้จ่ายในการบริหารในงบการเงินเฉพาะบริษัท ประกอบด้วย
(หน่วย :พันบาท)
2542 2541
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน 129,194 137,392
อาคาร สถานที่ และอุปกรณ์ 44,597 47,164
ภาษีอากร 39,989 64,982
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 36,166 35,813
รวม 249,946 285,351
หมายเหตุ 33 - ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับปี ค.ศ. 2000 (ยังไม่ได้ตรวจสอบ)
จากการที่ระบบคอมพิวเตอร์หลายระบบใช้ตัวเลขสองหลักแทนที่จะเป็นสี่หลักเพื่อระบุปี ก่อให้เกิดปัญหาปี ค.ศ. 2000
ระบบที่ใช้วันที่ดังกล่าวอาจจะรับรู้ปี ค.ศ. 2000 เป็นปี ค.ศ. 1900 หรือวันอื่นๆ ซึ่งทำให้เกิดข้อผิดพลาดเมื่อมีการประมวลข้อ
มูลที่ใช้วันที่ในปี ค.ศ. 2000 นอกจากนี้ปัญหาที่คล้ายคลึงกันอาจเกิดขึ้นในบางระบบงานซึ่งใช้วันที่บางวันในปี ค.ศ. 1999
เป็นตัวกำหนดคำสั่งงานอื่นที่ไม่ใช่วันที่ ผลกระทบของปี ค.ศ. 2000 อาจเกิดขึ้นหลังวันที่ 1 มกราคม ปี ค.ศ. 2000 และหาก
ไม่มีการแก้ไข จะมีผลต่อการดำเนินงานและการรายงานทางการเงิน ซึ่งอาจเป็นข้อผิดพลาดที่เล็กน้อยจนถึงขั้นเกิดความล้ม
เหลวของระบบงานที่มีสาระสำคัญ ซึ่งอาจมีผลต่อความสามารถของกิจการในการดำเนินธุรกิจตามปกติ นอกจากนี้เป็นสิ่งที่
เป็นไปไม่ได้ที่จะแน่ใจว่ากิจการจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจากปี ค.ศ. 2000 ให้สมบูรณ์
จนถึง ณ วันที่ในรายงาน (18 กุมภาพันธ์ 2543) การดำเนินงานและการรายงานทางการเงินของบริษัท บริษัทย่อย และกิจ
การร่วมค้าฯ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับ ปี ค.ศ. 2000 ฝ่ายบริหารของกลุ่มบริษัท ช. การ
ช่าง จำกัด (มหาชน) คาดว่าปัญหาปี ค.ศ. 2000 จะไม่มีผลกระทบที่เป็นนัยสำคัญต่อการดำเนินงานหรือการรายงานทาง
การเงินของกลุ่มบริษัท ในปี 2543